Vitamin Cx Plus

วิตามิน ซี เอ็กซ์ พลัส
อุดมไปด้วยสารสกัดธรรมชาติ อาทิ วิตามินซี Nutra-C สูตรเฉพาะลิขสิทธิ์จาก USAสารสกัดอะเซโรล่าเชอร์รี่ สารสกัดทับทิม ซีตรัสไบโอฟลาโอนอยด์ สารสกัดนมผึ้งเบต้าคูแคน และวิตามินรวมนานาชนิดเพื่อคุณประโยชน์ที่ดีกว่าของสุขภาพและผิวพรรณ
ราคาขายปลีก : 950 บาท
ราคาสมาชิก : 750 บาท
ปริมาณ : 50 เม็ด
วิธีการทาน
รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหาร
ข้อควรระวัง
ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือโรคภูมิแพ้ ไม่ควรรับประทาน เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง

   74-1-01357-5-0049 

ส่วนประกอบที่สำคัญต่อ 1 เม็ด             (1 เม็ด หนัก 1,200 มก.)
ผงอะเซโรลา เชอร์รี่   (Acerola Cherry Powder)  650  มก. (mg.)(54.16%)   
สารสกัดจากกับทิม    (Pomegranate Extract)      80    มก. (mg.) (6.66%)
ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ 
(Citrus bioflavonoids powder)                             60    มก. (mg.) (5.00%)
ผงรอยัล เยลลี           (Royal jelly powder)           50     มก. (mg.)(4.16%)
วิตามินซีที่ไม่มีกรด ให้วิตามินซี 84%
(Non-acidic Vitamin C Provide Vitamin C 84%)                     
                                                                                      45     มก. (mg.) (3.75%)
ยีสต์เบต้ากลูแคน 85% (Yeast beta glucan 85%)                     
                                                                                      30    มก. (mg.) (2.5%)
ซิงค์ อะมิโน แอซิด คีเลท 20%  (Zinc amino acid chelate 20%)
                                                                                      25     มก. (mg.)(2.08%)
กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid)                           14.98 มก. (mg) (1.25%)
ดีแอล-แอลฟา-โทโคเฟอริลแอซีเทต (DL-alpha-tocophery| acetate)
                                                                                     7,448 มn. (mg.)(0.62%)
ซีลีเนียม อะมิโน แอซิด คีเลต 1% (Selenium amino acid chelate 1%)
                                                                                     7.00 มก.(mg)(0.58%)
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)                                    4,9952 มก. (mg.) (0.41%)
ไบโอติน 1% (Biotin 1%)                                             3.724 มก. (mg.) (0.31%)
วิตามิน เอ อะซิเตท (Vitamin A acetate)               2,0496 มก. (mg.)(0.17%)
วิตามิน เค1 1% (Vitamin K 1 1%)                             1.9992 มก. (mg.) (0.1666%
แคลเซียม แพนโททีเนต (Calcium Pantothenate)    1.68 มn. (ng) (0.14%E
ไรโบฟลาวิน 5′-ฟอสเฟต โซเดียม (Riboflavin 5′-phosphate sodium)
                                                                                    0.6048 มก. (mg.) (0.050k
ไพริดอกซีน ไฮโดรคลอไรด์ (Pyridoxine Hydrochloride)
                                                                                    0.6048 มก. (mg) (0.050-
กรดโฟลิก 10% (Folic acid 10%)                            0.5544 มก. (mg.) (0.0462
วิตามิน ดี3 (Vitamin D3)                                        0.4984 มn. (mg) (0.041%0
ไทอะมีน (Thiamine)                                                0.4592 มก. (mg) (0.038%)
วิตามิน บี12 1% (Vitamin B12 1%)                           0.0476 มn. (rg.)(0.003%)
สารเพิ่มปริมาณ (มอลโทเดกซ์ทริน,ไมโคร คริสตัลไลน์ เซลสิโลส)
สารป้องกันการจับตัวเป็นก้อน (แมกนีเซียม สเตีย เรท) ดีแอล-แอลฟา-โทโคเฟอริลแอซีเทต

 

คุณค่าทางโภชนาการ
 จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา สารอาหารของอะเซโรลา เชอร์รี่ มีดังนี้
Acerola-Cherry-Fruit-Powder-500x500

Non-acidic
ไม่เป็นกรด

Hight Bioavailitg
ดูดซึมสูง

Quick absorption
ดูดซึมเร็ว ใช้งานได้ทันที

Better retention
คงอยู่ในร่างกายได้นานกว่า
วิตามินซีทั่วไป

การทานวิตามินซี ให้ได้คุณค่าสูงสุด
………………..
มีหลายคนถามว่า วิตามินซี ควรทานอย่างไร ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายและให้ได้คุณค่าสูงสุด
;;;;;;;;;;;
คำแนะนำจากเวชศาสตร์ชะลอวัย เราควรทานวิตามินซีให้ได้วันละ 1000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และควรเลือกทานวิตามินซีที่สกัดจากธรรมชาติเท่านั้น
……..>>>>>>>…….
ปกติร่างกายจะขับวิตามินซี ภายใน 2-3 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น หากเป็นวิตามินซีทั่วไป แนะนำให้ทานเช้าและเย็น พร้อมมื้ออาหาร
;;;;;;;;;;;
ยกเว้นผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีที่มีความเข้มข้น มีงานวิจัยรองรับ และใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง ที่สามารถออกฤทธิ์และดูดซึมได้ 24 ชั่วโมง อย่างเช่น วิตามินซีเอกซ์พลัส (Vitamin CX plus) วิตามินซีสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ สารสกัดอะเซโรลาเชอร์รี่ ทับทิม ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ นมผึ้ง และวิตามินรวมนานาชนิด เพื่อให้ได้คุณภาพที่เข้มข้น แตกต่าง เต็มคุณค่า โดยการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี ที่สามารถปลดปล่อยและออกฤทธิ์ในร่างกายได้นานถึง 24 ชั่วโมง
🥰
แอดแนะนำให้ทานเพียง 1 แคปซูลในช่วงเช้าพร้อมมื้ออาหาร ก็เพียงพอและได้คุณค่าสูงสุด ด้วย 4 ประสิทธิภาพ
– ไม่เป็นกรด ไม่ทำลายสารเคลือบฟัน ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
– ดูดซึมสูง
– ใช้งานได้ทันที
– คงอยู่ในร่างกายได้นาน 24 ชั่วโมง ทำให้ร่างกายสามารถนำวิตามินซีไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
🍈🍓🍋
เพราะร่างกายคนเราไม่อาจขาดวิตามินซีได้ ฉะนั้น ถ้าเราอยากให้ชีวิตห่างไกลความเจ็บไข้ได้ป่วย ให้เลือกทานวิตามินซีเข้มข้น ให้ได้วันละ 1000 มิลลิกรัมเป็นอย่างน้อย
ด้วยความห่วงใยและใส่ใจสุขภาพคุณ

การที่ร่างกายขาดวิตามินซี
เรื่องใหญ่กว่าที่คิดนะคะ เป็นที่รู้กันว่าวิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ
ฉะนั้นหากร่างกายคุณหรือคนที่คุณรักส่งสัญญาณเตือนตามอาการดังนี้ เลือดออกตามไรฟัน เป็นหวัดติดเชื้อง่าย ฟกช้ำง่าย แผลหายช้ากว่าปกติ
ผิวหยาบกร้านหมองคล้ำ น้ำหนักเกิน (อ้วน) เหนื่อยล้า สูญเสียการมองเห็น : ให้รีบดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารวิตามินซี
หรือง่ายๆเพียงแค่รับประทาน Vitamin CX Plus เป็นประจำทุกวันนะ

วิตามินดี เป็นวิตามินที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องรับวิตามินดีได้ 2 ทางเท่านั้นคือ การสังเคราะห์แสง และการรับประทานเข้าไป วิตามินดี
ละลายได้ในไขมันเท่านั้น และต้องอาศัยการกระตุ้นเปลี่ยนรูปที่ตับและไต เพื่อให้สามารถออกฤทธิ์ได้ในร่างกาย วิตามินดี 3 สำคัญแค่ไหน?

จากงานวิจัยพบว่า วิตามินดีมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ วิตามินดี 3 จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากอาหาร และควบคุมกระบวนการต่างๆ ในร่างกาย เช่น การรักษาระดับแร่ธาตุในเลือดให้เป็นปกติ ช่วยยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์ อันเป็นสาเหตุให้เกิดการสลายกระดูก เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน อ้างอิงจากข้อมูลการศึกษา พบว่า
คนที่ขาดวิตามินดี มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าคนทั่วไป และการเสริมวิตามินดีช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวพันกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบอีกด้วย วิตามิน D3 หนึ่งในสารสกัดผลิตภัณฑ์ AIFACAD เป็นวิตามินดีบริสุทธิ์ผ่านการวิจัยและได้รับการรับรองให้ใช้สำหรับการป้องกันภาวะเสี่ยงเบาหวาน โดยผ่านการทดสอบทั้งในอเมริกา ยุโรป และเอเชียมาแล้ว
พบว่า วิตามิน D3 มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ตับอ่อนให้ผลิตอินซูลินในการควบคุมน้ำตาลในกระแสเลือดได้ดี

Scroll to Top